รัฐบาลห่วงเสี่ยง วัยรุ่นติดโรคทางเพศสัมพันธ์ มากขึ้น เตรียมงบลุยแก้ปัญหา

รัฐบาลห่วงเสี่ยง วัยรุ่นติดโรคทางเพศสัมพันธ์ มากขึ้น เตรียมงบลุยแก้ปัญหา

โฆษกสำนักนายก เผยความเสี่ยง วัยรุ่นติดโรคทางเพศสัมพันธ์ มากขึ้น โดยเฉพาะ HIV-เอดส์ เตรียมงบ 4 พันล้านบาทลุยแก้ปัญหา นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลห่วงใยวัยรุ่นเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสและหนองในในกลุ่มอายุ 15-24 ปี ซึ่งผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสการติดเชื้อHIV มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ป่วยถึง 5-9 เท่า ทั้งนี้

จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ HIV ปี 2564 จำนวนราว 520,00 คน 

และคาดว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 6,500 คนต่อประชากรทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชน อายุ 15 – 24 ปี โดยในปีงบประมาณ 2566 สปสช. เตรียมงบประมาณไว้สำหรับงานHIV-เอดส์ จำนวน 3,978 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือประชาชนกลุ่มเฉพาะตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกำหนด ครอบคลุมบริการการรักษาด้วยยาต้านไวรัส การตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ การตรวจคัดกรองและการตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซี

นางสาวรัชดาฯ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายในการยุติปัญหาเอดส์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ภายในปี 2573 ซึ่งกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์ความร่วมมือไทย – สหรัฐด้านสาธารณสุข และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พัฒนาระบบให้คำปรึกษาเรื่อง HIV เอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ออนไลน์ โดยผู้รับบริการสามารถแสกนคิวอาร์โค้ด Line OA @Stand by you หรือ เว็บไซต์ standbyyou.info เพื่อขอรับบริการ ได้แก่ ขอรับชุดตรวจหา HIV ทำแบบประเมินหาความเสี่ยง ขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผมเชี่ยวชาญ และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ

“ระบบการให้บริการดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะวัยรุ่นเข้าถึงคำปรึกษา ชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถได้รับยาป้องกันทั้งแบบฉุกเฉินและแบบป้องกัน HIV หากมีความเสี่ยงในอนาคต นำไปสู่การตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาของ HIV เอดส์ต่อไป และควบคู่กันไป ตั้องย้ำเตือนเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยด้วย เพราะจะเป็นการป้องกันการติดต่อของโรคได้อย่างมีปคะสิทธิภาพที่สุด” นางสาวรัชดา กล่าว

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 41.46 ระบุว่า ไม่พอใจเลย รองลงมา ร้อยละ 22.87 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ

ทักษิณ – ยิ่งลักษณ์ ร่วมโพสต์ข้อความไว้อาลัย ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’

ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรีร่วมโพสต์ข้อความไว้อาลัย ควีนเอลิซาเบธที่ 2 หลังสวรรคตด้วยพระชนมายุ 96 พรรษา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กไว้อาลัยต่อควีนเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต พระชนมายุ 96 พรรษา 

โดยนายทักษิณเขียนข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุว่า “การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถือได้ว่าเป็นการสูญเสียประมุขผู้เป็นที่รักและเคารพที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก การครองราชย์ข้ามศตวรรษของพระองค์เปี่ยมล้นไปด้วยเกียรติภูมิและศักดิ์ศรี ทรงทุ่มเทและทรงงานให้กับสหราชอาณาจักรและประชาชนของท่าน พระองค์ไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวอังกฤษเท่านั้นแต่ยังคงได้รับการยอมรับจากประชาชนนับล้านคนทั่วโลก

ประชาชนไทยมีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระองค์ท่านในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยในปีพุทธศักราช 2515 และ 2539 ที่เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรให้แน่นแฟ้นขึ้น

ข้าพระพุทธเจ้าขอร่วมกับพสกนิกรชาวไทยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระราชวงศ์ รัฐบาลสหราชอาณาจักร รวมถึงประชาชนทุกคนในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้”

เช่นเดียวกันกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรีหญิงและน้องสาวของนายทักษิณเองก็ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยและภาพเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทควีนเอลิซาเบธที่ 2

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนของอังกฤษ

พระองค์ทรงเป็นพระประมุขแห่งสหราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และทรงครองสิริราชสมบัติมายาวนาน เป็นที่ชื่นชมและยกย่องด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม ประกอบกับการทรงงานที่มุ่งมั่นและทุ่มเทเพื่อพสกนิกรของท่าน ทำให้พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้ผู้คนทั่วโลกเคารพนับถือ

ข้าพระพุทธเจ้ายังคงจำเกียรติประวัติอันสูงสุดที่ได้รับพระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเมื่อปี​ พ.ศ. 2555 พระเมตตาและน้ำพระราชหฤทัยที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและราชอาณาจักรไทยของพระองค์ยังคงตราตรึงในหัวใจอย่างมิรู้ลืม

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป